วันอังคารที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2554

นโยบาย รถคันแรก อาจส่งผลให้ค่ายรถผลิตอีโคคาร์ไม่ทัน กระทบการตัดสินใจซื้อ รถป้ายแดง

นายภิญญาวัฒน์ จันทรกานตานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เคทีบี ลีสซิ่ง จำกัด ในเครือธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTB) กล่าวถึงนโยบายรถยนต์คันแรกของรัฐบาลว่า เนื่องจากมาตรการ รถยนต์คันแรกของรัฐบาลที่เน้นให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีกับผู้ซื้อที่ไม่เคยเป็นเจ้าของรถมาก่อน ทำให้ประเมินได้ว่าจะมีผู้ที่อยู่ในข่ายได้ประโยชน์นี้ไม่มากนัก และ อาจทำได้เพียงกระตุ้นความต้องการซื้อให้ เพิ่มขึ้นเท่านั้น ซึ่งจะไม่ได้ส่งผลโดยรวมต่ออุตสาหกรรมรถยนต์และธุรกิจลีสซิ่ง

ทั้งนี้ นโยบายที่เน้นรถยนต์อีโคคาร์ นั้น จะพบว่ามีปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ คือปริมาณรถยนต์ที่จะส่งมอบไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะในรถยนต์ที่เป็นแบรนด์หลักของธุรกิจ ดังนั้นจะเห็นได้ว่าไม่ได้มีผลบวกต่อธุรกิจมากนัก เนื่องจากแม้จะมีความต้องการ และมียอดขาย แต่รถยนต์ประเภทอีโคคาร์ ที่มีปริมาณการผลิตไม่เพียงพออาจมีผลต่อการตัดสินใจของผูบริโภคได้เช่นกัน นายอนุชาติ ดีประเสริฐ ผอ.อาวุโสธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) (TBANK) กล่าวถึงนโยบายรถยนต์คันแรกของรัฐบาลว่า ขณะนี้ความชัดเจนยังไม่มากนัก แต่ถ้ามองในแง่ของผู้บริโภคอาจเป็นการช่วยสร้างสีสันและบรรยากาศที่ดีในกลุ่มผู้ที่ต้องการมีรถยนต์ คันแรก ซึ่งการลดหย่อนต่างๆ จะช่วยเพิ่ม กำลังซื้อให้แก่ผู้บริโภคได้ อย่างไรก็ตามหากรายละเอียดของนโยบายสามารถกระตุ้นตลาดรถยนต์ได้จริง ก็ย่อมมีผลดีต่อทั้งอุตสาหกรรมรถยนต์และธุรกิจลีสซิ่ง

ส่วนนโยบายดังกล่าวจะมีผลกระทบ ต่อตลาดรถยนต์มือสองหรือไม่นั้น นายอนุชาติ กล่าวว่า ไม่น่าจะกระทบทั้งในเชิงยอดขายและราคา เนื่องจากเมื่อพิจารณารายละเอียดของนโยบายนี้เบื้องต้น คาดว่าจะมีเงื่อนไขที่เกี่ยวเนื่องกับ ระบบฐานผู้จ่ายภาษีเป็นหลัก ดังนั้นผู้ที่ไม่เข้าข่ายก็ยังมีจำนวนสูงพอสมควร อีกทั้งกลไกของราคาจะเป็นตัวประคองภาพรวมของตลาดรถยนต์มือสองอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม จะต้องติดตามรายละเอียดในเงื่อนไขต่างๆ ก่อน ซึ่งธนาคาร ยังไม่จำเป็นต้องมีโปรโมชั่นส่งเสริมการขายเพิ่มเติมจากปัจจุบันแต่อย่างใด ทั้งนี้ สำหรับพอร์ตสินเชื่อรถยนต์ของธนาคารขณะนี้ มีสัดส่วนรถกระบะคิดเป็น 55% ของสินเชื่อรวม และ 45% เป็นสินเชื่อรถเก๋ง โดยในส่วนนี้จะมีสัดส่วนของรถยนต์ที่เป็นอีโคคาร์ไม่ถึง 20%

ก่อนหน้านี้ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า ได้เร่งรัดให้กรมสรรพากรและกรมสรรพสามิตสรุปรายละเอียดเกี่ยวกับนโยบายรถคันแรกว่าจะมีการดำเนินการอย่างไร คาดว่าน่าจะได้ข้อสรุปภายในสัปดาห์นี้ และจะเร่งนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภาย ในสัปดาห์ถัดไป สำหรับหลักเกณฑ์ในการดำเนินการเบื้องต้นนั้น ยังคงมีนโยบายให้มีการคืนภาษีสรรพสามิตเต็มอัตราแต่ไม่เกิน 1 แสนบาท สำหรับรถกระบะและรถอีโคคาร์

“ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างที่กรมสรรพากรจะต้องไปหารือเรื่องวิธีการคืนภาษีว่าจะดำเนินการอย่างไรเพราะยังติดปัญหาทางเทคนิคในการดำเนินการอยู่นิดหน่อย แต่จะเร่งให้ได้ข้อสรุปให้เร็วที่สุด เพื่อให้ทันเข้า ครม.ภายในเดือนก.ย.นี้และให้สามารถประกาศใช้ได้ทันภายในวันที่ 1 ต.ค. 2554” นายบุญทรง กล่าว

แหล่งข่าวจากกรมสรรพสามิตเปิดเผยว่า เรื่องภาษีรถยนต์คันแรกยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะให้สิทธิประโยชน์แก่รถประเภทไหน เพราะถ้าให้รถอีโคคาร์ก็จะทำให้มีค่ายรถยนต์แค่ 2 ค่ายที่ได้ประโยชน์ นอกจากนี้ ยังมีกรณีของรถกระบะก็ยังไม่สรุปชัดว่าจะเป็นรถกระบะ 2 ประตู หรือ 4 ประตู หรือรถกระบะแบบดัดแปลง เพราะถ้าให้สิทธิได้หมดก็จะทำให้มีรถ ที่เข้าข่ายได้ลดภาษีเพิ่มอีกมากกว่า 1 แสนคัน

ทั้งนี้ ยังต้องคำนึงถึงประชาชนทั่วไป ที่ซื้อรถยนต์คันแรก อาจจะร้องเรียนว่าไม่ได้รับประโยชน์อย่างเท่าเทียม ซึ่งถ้ารัฐยอมลดภาษีให้เป็นการทั่วไปทั้งหมด จะทำให้รายได้ของรัฐหายไปปีละหลายหมื่นล้านบาท

ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก
http://www.siamturakij.com/home/news/display_news.php?news_id=413355300