วันอังคารที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ตลาด สินเชื่อรถมือสอง คึกคัก ชูกำไรชดเชยป้ายแดงวูบ

     ผู้ประกอบการเช่าซื้อรถยนต์โหมทำตลาด"รถเก่า"ทำกำไรชดเชยตลาดรถใหม่วูบ 30% ค่าย "โตโยต้าชัวร์"การันตีคุณภาพบวกราคาได้-เผยปีทองตลาดรถมือสองโตประมาณ 10-20%เหตุดีลเลอร์แข่งหารถดันราคาประมูลเพิ่ม 10%

     นายอิสระ วงศ์รุ่ง กรรมการผู้จัดการบริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด ในฐานะประธานสมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทย เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ ยังคงมีปัจจัยกดดันควบคู่กับความคาดหวัง โดยเฉพาะรถป้ายแดงน่าจะกลับมาฟื้นตัวใน 3 เดือนหลังจากได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในญี่ปุ่นส่งผลให้ค่ายรถยนต์ป้ายแดงประสบปัญหาผลิตรถยนต์ไม่ทันนำส่งลูกค้า ทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ ต้องหันมาเจาะตลาดรถยนต์เก่าทดแทนยอดสินเชื่อรถไม่ที่ชะลอตัว



     อย่างไรก็ดีขณะนี้ได้แต่คาดหวังว่าสถานการณ์ในญี่ปุ่นฟื้นตัวกลับมาโดยเร็ว ส่วนภาพรวมตลาดรถยนต์นั้น ถ้าทำยอดขายได้8แสนคันก็ถือว่าเก่งแล้ว ซึ่งอันนี้เป็นความหวังในครึ่งปีหลังที่จะมีผลต่อการปล่อยสินเชื่อรถป้ายแดง ดังนั้นผู้ประกอบการทุกค่ายจึงหันมาเน้นสินเชื่อรถมือสองเพราะความต้องการที่เพิ่มขึ้นแถมยังทำกำไรได้ดี ถ้าบริหารความเสี่ยงได้"

     สอดคล้องนายประยุทธ์ จิตรวัชโกมล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทโตโยต้า ลีสซิ่ง(ประเทศไทย)ฯ อดีตประธานสมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทย ที่กล่าวว่าตลาดธุรกิจเช่าซื้อรถใหม่(ป้ายแดง)ปีนี้อาจจะไม่โตไปจากปีก่อน ขณะเดียวกันมีโอกาสจะลดลงประมาณ 30% ขณะที่ตลาดรถมือสองแม้จะมีกำลังซื้อหรือความต้องการมีอัตราการเติบโต 10-20% แต่จากสาเหตุปริมาณรถเก่าที่ป้อนเข้าตลาดมีน้อย ต่อเนื่องถึงความระมัดระวังของสถาบันการเงินในการอนุมัติสินเชื่อรถยนต์ที่ผ่านมาทำคุณภาพสินเชื่อดี จึงมีปริมาณรถยึดมีน้อย เป็นต้นเหล่านี้จึงเป็นปัจจัยให้ดีลเลอร์รถเก่าสามารถทำกำไรและขายรถเก่าได้เร็วขึ้น แต่ที่สำคัญ ดีลเลอร์ต้องหารถเก่าเข้ามาตอบสนองความต้องการของลูกค้า เท่าที่ทราบก็ไม่ง่าย เพราะการที่ดีลเลอร์ต้องหารถยนต์เข้ามาโดยส่งผลกระทบต่อราคาประมูลที่แข่งขันกันโดยทำให้ราคาเพิ่มประมาณ 10% เพราะดีลเลอร์สามารถขายรถในราคาที่บวกเพิ่มได้อยู่แล้ว
"ตอนนี้คนต้องการใช้รถจริงจะหันมาซื้อรถมือสองสภาพดีบางรุ่นความต้องการสูงราคาอาจปรับเพิ่ม12-13%ยิ่งโตโยต้าชัวร์ผ่านการตรวจเช็กการันตีคุณภาพราคาจึงสูงจากปกติ ยิ่งเค้กน้อยลงเมื่อไฟแนนซ์หันมาทำแคมเปญรถเก่ามากขึ้นจึงเป็นสิ่งกระตุ้นตลาดรถเก่า"นายประยุทธ์กล่าว


     นายอนุชาติ ดีประเสริฐ ผู้อำนวยการอาวุโส ธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลจากภัยพิบัติในญี่ปุ่นน่าจะส่งผลให้ยอดการผลิตรถยนต์ใหม่ชะลอตัวลง 2-4 เดือน ซึ่งจะส่งผลให้ความต้องการถยนต์มือสองกลับมาขยายตัวได้ดี รวมถึงส่งผลต่อราคารถยนต์มือสองให้เร่งตัวสูงขึ้นโดยอย่างน้อยน่าจะสูงขึ้นประมาณ 30,000-40,000 บาทต่อคัน ซึ่งจะส่งผลดีมายังตลาดสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มือสองให้ปรับตัวสูงขึ้นไม่ต่ำกว่า 20% ภายในช่วงระยะเวลา 2-4 เดือนดังกล่าวนี้
"ตอนนี้สั่งจองรถยนต์มือหนึ่งต้องรอการส่งมอบแบบไม่รู้ระยะเวลา คือมีดีมานด์ในตลาดเยอะแต่ซัพพลายไม่มี ทำให้ผู้บริโภคที่ต้องใช้รถยนต์ในการประกอบอาชีพอาจจะรอไม่ได้ และเป็นโอกาสให้ผู้บริโภคหันมาซื้อรถยนต์มือสองมากขึ้น ผลก็คือราคาดีขึ้น และดีลเลอร์ขายได้มากขึ้น"


     อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าปริมาณรถยนต์มือสองจะเพียงพอต่อความต้องการซื้อไปจนถึงสิ้นปีนี้ แต่หากสถานการณ์ในญี่ปุ่นลากยาวก็อาจจะทำให้สต๊อกรถยนต์มือสองที่อยู่ในตลาดไม่เพียงพอต่อความต้องการซื้อของผู้บริโภคได้ แต่ทั้งนี้ ยืนยันว่าสถานการณ์น่าจะเริ่มกลับสู่ภาวะปกติภายในไตรมาส 4 ปีนี้

ขอบคุณข่าวโดย หนังสือพิมพ์ ฐานเศรษกิจ ฉบับวันพฤหัสบดี 12 - เสาร์ 14 พฤษภาคม 2554