วันเสาร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2554

คาดการผลิตรถยนต์ปี54 นี้ที่ 1.65 ล้านคัน

     สถาบันยานยนต์ คาด ปีนี้ยอดผลิตรถยนต์ จะทำการผลิตได้เท่ากับปีที่ผ่านมา ที่ 1.65 ล้านคัน และมั่นใจช่วงครึ่งปีหลัง 4ค่ายผู้ผลิตใหญ่จะเพิ่มการผลิตได้อย่างเต็มที่

     นายวัลลภ เตียศิริ ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ กล่าวว่า ในเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ ค่ายรถยนต์ 3 รายใหญ่ ที่ครองตลาดในประเทศรวมกัน ร้อยละ 80 จะสามารถปรับเพิ่มกำลังการผลิตเข้าสู่ระดับปกติได้ โดยโตโยต้าได้เริ่มทำการผลิตได้ในระดับปกติ แล้วในโรงงานประกอบรถยนต์ทั้ง 3 แห่ง ที่สำโรง, เกตเวย์ และบ้านโพธิ์ ตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา และต้นเดือนมิ.ย.จะเร่งเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 120% เพื่อให้ได้ยอดการผลิตกว่า 6 แสนคันตามแผนการผลิตในปีนี้

     หากรวมยอดการผลิตโดยโตโยต้า นิสสัน ฮอนด้า และมาสด้าแล้วน่าจะมีปริมาณรวมกันไม่ต่ำกว่า 970,5000 คัน หรือเป็นสัดส่วนร้อยละ 60 ของเป้าหมายการผลิตรถยนต์ในไทยทั้งตลาด ซึ่งจะมีผลให้ช่วงครึ่งหลังของปีนี้ การผลิตรถยนต์จะทำการผลิตได้อย่างเต็มที่ โดยขึ้นอยู่กับเงื่อนไขว่าจะสามารถนำเข้าชิ้นส่วนยานยนต์ที่สำคัญที่เป็น ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์จากโรงงานผลิตในญี่ปุ่นได้ตามปกติ ซึ่งสถาบันยานยนต์ประเมินว่า ยอดผลิตรถยนต์ตลอดปีนี้จะผลิตได้เท่ากับปี 2553 คือ มียอดผลิตรวม 1.65 ล้านคัน จากเป้าหมายเดิม 1.8 ล้านคัน ลดลงประมาณร้อยละ 10

     ส่วนอีซูซุก็ได้เริ่มผลิตแล้วเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน และฮอนด้าประกาศความพร้อมกลับมาผลิตได้ในระดับปกติในเดือนกรกฎาคม ขณะที่ นิสสัน มอเตอร์ ได้รับผลกระทบค่อนข้างน้อยเนื่องจากได้สำรองชิ้นส่วนยานยนต์ไว้ค่อนข้างสูง ปีนี้ตั้งยอดการผลิตไว้ที่ 200,000 คัน มาสด้าเซลส์จะเริ่มผลิตได้เต็มกำลังการผลิตในต้นเดือนมิถุนายนเป็นต้นไป โดยตั้งเป้าหมายผลิตปีนี้รวมกัน 25,000 คัน

     สำหรับสภาพตลาดรถภายในประเทศ ยังคงมีความต้องการรถยนต์ใหม่อย่างต่อเนื่อง โดย ยังมียอดจองที่รอการส่งมอบนานประมาณ 1-2 เดือน และคาดว่าทั้งปียอดขายในประเทศจะมีประมาณ 850,000 คัน ไม่รวมยอดส่งออกอีกประมาณ 750,000-800,000 คัน

     ด้านศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้เผยข้อมูลภาคการผลิตยานยนต์ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วน มีปริมาณหดตัวลงถึงร้อยละ 27.8 ในเดือนเมษายน ซึ่งนับเป็นการปรับลดการผลิตในอัตราที่มากที่สุดในรอบ 22 เดือน ขณะที่ปริมาณการจำหน่ายยานยนต์ก็ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงเช่นกัน ด้านการส่งออกหมวดยานพาหนะและชิ้นส่วน ในเดือนเมษายน ก็ได้หดตัวลงร้อยละ 9.3 จากที่มีการเติบโตร้อยละ 21.4 ของเดือนมีนาคม 2553 นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบให้การนำเข้ายานยนต์และชิ้นส่วน ขยายตัวในอัตราที่ต่ำลงมาเหลือเพียงร้อยละ 10.4 ในเดือนเมษายน จากที่เคยเติบโตสูงถึงร้อยละ 36.4 ในเดือนมีนาคม


วันศุกร์ที่ 03 มิถุนายน 2011 ข่าวหุ้นธุรกิจ
สินเชื่อรถแลกเงิน สินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อคนมีรถ