ผู้ประกอบการรถหรูส่วนใหญ่เลี่ยงภาษี โดยนำเข้ารถหรูในรูปแบบการจดประกอบ ด้วยการนำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์จากต่างประเทศ อาศัยช่องโหว่ของอัตราภาษีศุลกากรจากอัตราภาษีนำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์ที่เก็บเพียง 0-30% ขณะที่การนำเข้ารถยนต์หรูสำเร็จรูปอย่างถูกต้องเสียภาษีในอัตราที่สูงถึง 200% จากนั้นจึงนำชิ้นส่วนมาประกอบในประเทศและส่งจำหน่ายต่อไป
นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผย ภายหลังประชุมร่วมกับนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (เมื่อ 9ก.พ.55) ว่า ที่ประชุมได้หารือเพื่อวางกรอบแก้ไขปัญหาการนำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์ใช้แล้วเข้ามาประกอบในประเทศ (รถจดประกอบ) เพื่อเลี่ยงภาษี ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.)
ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้กรมการขนส่งทางบกกลับไปพิจารณาออกกฎกระทรวงเพิ่มเติม งดจดทะเบียนรถยนต์ที่มีการนำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์ใช้แล้วเข้ามาประกอบในประเทศ ภายใน 30 วัน เพื่อป้องกันการนำเข้ารถหลีกเลี่ยงภาษี โดยกระทรวงพาณิชย์จะกลับไปออกกฎกระทรวงห้ามไม่ให้นำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์ใช้แล้วเข้ามาประกอบในประเทศ ขณะที่กระทรวงการคลั งจะเข้มงวดเรื่องการสำแดงการนำเข้าชิ้นส่วนและการเก็บภาษีสรรพสามิตให้ถูกต้อง โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีผู้นำเข้าชิ้นส่วนประกอบรถยนต์หรูเลี่ยงภาษีมากถึง 4-5 พันคันต่อปี ส่งผลกระทบต่อการจัดเก็บรายได้ภาษีของรัฐบาลไปแล้วกว่า 8-9 พันล้านบาท
ด้านนายสมชัย ศิริวัฒนโชค อธิบดีกรมการขนส่งทางบกกล่าวว่า ช่วง2 ปีที่ผ่านมา มีรถยนต์หรูที่นำชิ้นส่วนมาประกอบในโรงงานภายในประเทศเพิ่มมากขึ้น เห็นได้จากสถิติในปี 2553 มีรถยนต์หรูที่นำชิ้นส่วนมาประกอบในไทยจำนวนมากถึง 9 พันคัน ซึ่งการเสียภาษีรถยนต์หรูก็เหมือนกับเสียภาษีรถยนต์ธรรมดา หากความจุกระบอกสูบเครื่องยนต์สูง 1,800-4,000 ซีซี จะเสียภาษี
สินเชื่อรถ
