วันอังคารที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2555

สังเวียนซูเปอร์คาร์ 2555 เฟอร์รารี่ VS ลัมโบร์กินี

ตลาดซูเปอร์คาร์รถมหาเศรษฐีกระหึ่มตั้งแต่ต้นปี ค่ายเฟอร์รารี่เตรียมขนขบวนรถใหม่ 2 รุ่นลุย 458 สปายเดอร์ -เอฟ 152 มั่นใจสิ้นปีทำยอดขายเข้าเป้า ด้านนิชคาร์ ส่งลัมโบร์กินี ทั้ง อเวนทาดอร์ - Super trofeo stradale ซึ่งเป็นลิมิเต็ด อิดิชั่น เข้าสู้ศึก พร้อมรุกกิจกรรมกับแบรนด์โลตัส ด้วยการทุ่ม 100 ล้านจัด โลตัส วันเมคเรซ

นางนันทมาลี ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท บริษัท คาวาลลิโน มอเตอร์ จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์เฟอร์รารี่แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เปิดเผยว่า แผนงานในปี 2555 จะมีการเปิดตัวรถใหม่เริ่มตั้งแต่ 458 สปายเดอร์ หลังจากนั้นแล้วจะมีในรุ่น เอฟ152 ซึ่งจะมาแทนรุ่น 599 และถือเป็นรถซูเปอร์คาร์ที่มีความแรง 700 แรงม้า สนนราคากว่า 30 ล้านบาท

นอกจากรถรุ่นใหม่แล้ว แผนงานด้านการบริการหลังการขายจากปัจจุบันศูนย์บริการมีจำนวน 6 ช่องซ่อมก็จะมีการขยายช่องซ่อมเพิ่มอีก 1 ช่อง รวมไปถึงช่องซ่อมที่ดูแลรถคลาสสิกโดยเฉพาะ และสามารถที่จะให้บริการตั้งศูนย์-ถ่วงล้อได้ ในส่วนนี้คาดว่าจะใช้เม็ดเงินประมาณ 3 ล้านบาท เนื่องจากค่าเครื่องมือมีการนำเข้ามาจากประเทศอิตาลี

ลูกค้าเข้ามาใช้บริการหลังการขายเป็นจำนวนมาก ซึ่งบริษัทแม่ก็มีการวางนโยบายให้กับเรา เพราะเป็นประเทศที่ต้องจ่ายภาษีนำเข้าที่แพง ดังนั้นก็จะเน้นในเรื่องของคุณภาพมาตรฐานในการบริการหลังการขายให้ดีที่สุด พร้อมในเรื่องของอะไหล่ที่สุด

นางนันทมาลี กล่าวเพิ่มเติมว่า แผนการตลาดตามปกติจะมีงบประมาณ 7-10 ล้านบาท แต่ในปีนี้อาจจะมีการปรับลดลงเล็กน้อย และจากเดิมในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาจะเน้นอะโบฟเดอะไลน์ หรือการสื่อสารผ่านสื่อหลักต่างๆไม่ว่าจะเป็นทีวี,นิตยสาร,หนังสือพิมพ์ แต่ในปีนี้จะเน้นไปที่บีโลว์ เดอะ ไลน์ หรือกิจกรรมทางการตลาดมากยิ่งขึ้น โดยจะเข้าร่วมโรดโชว์ซูเปอร์คาร์ หรือ กิจกรรมต่างๆ

"ลูกค้าเริ่มรู้จักแบรนด์คาวาลลิโนมากขึ้น และรู้ว่าเราเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของเฟอร์รารี่ ดังจะเห็นได้จากมีกลุ่มลูกค้าที่วอล์ก อินเข้ามา และตัดสินใจซื้อเมื่อได้สัมผัสและพูดคุยกับเรา ซึ่งถือว่าเราประสบความสำเร็จอย่างมากที่ได้กลุ่มลูกค้าใหม่ๆเหล่านี้ "

ขณะที่ยอดขายในปี 2554 ที่ผ่านมาสามารถทำได้ 20 คัน โดยมียอดขายหลักมาจากรุ่น 458 และ แคลิฟอร์เนีย ซึ่งในปี 2555 คาดว่ายอดขายจะยังคงอยู่ที่ระดับ 20 คัน เนื่องจากรถรุ่นใหม่ที่เปิดตัวสู่ตลาดจะมีราคาสูงกว่า 30 ล้านบาท และมีกลุ่มลูกค้าที่เฉพาะกลุ่ม จึงคาดว่าปริมาณยอดขายจะเทียบเท่ากับปีที่ผ่านมา ขณะที่ในกลุ่มรถมือสองของเฟอร์รารี่ในปีที่ผ่านมามียอดขายประมาณ 10 คัน และในปีนี้คาดว่าจะมีรถเข้ามาประมาณ 12 - 15 คัน

"ในช่วงปลายปีที่มีเหตุการณ์น้ำท่วมเกิดขึ้น กลุ่มลูกค้าอาจจะหายไปบ้าง แต่ไม่ได้กระทบมากมาย หรือลูกค้าตอนแรกกำลังตัดสินใจจอง แต่เมื่อประสบภัยอาจจะต้องนำเงินไปซ่อมแซมหรือใช้จ่ายด้านอื่นๆก่อน แต่ว่าเราก็มีลูกค้าใหม่เข้ามาทดแทน ซึ่งเราเชื่อว่าในอนาคตภายใน 2 ปีนี้เราจะสามารถทำยอดขายได้ 25 คัน หรือที่เป็นรถมือสองสัก 15 คัน ตรงนี้เป็นเป้าที่เราจะไปให้ถึง"

นางนันทมาลี กล่าวว่า ภาพรวมการแข่งขันของรถซูเปอร์คาร์ในปัจจุบัน ถือว่ามีคู่แข่งเข้ามาในตลาดเป็นจำนวนมาก ซึ่งในส่วนของเฟอร์รารี่จะมีการนำเสนอคุณสมบัติเด่นของรถในแต่ละรุ่น ความแตกต่างที่เหนือกว่าคู่แข่ง ยกตัวอย่าง การวางตัวเครื่องด้านหน้า จากเดิมที่จะคุ้นชินกับเครื่องวางกลาง ก็จะได้เห็นว่าเฟอร์รารี่มีเครื่องวางด้านหน้า และหน้าที่ของบริษัทก็ต้องทำอย่างไรก็ตามให้รถรุ่นดังกล่าวนี้เกิดความนิยม รวมไปถึงการดูแลกลุ่มลูกค้า-การให้ข้อมูล-การดูไลฟ์สไตล์ของลูกค้าแต่ละคนว่าเหมาะสมกับรถประเภทไหน

นอกจากค่ายเฟอร์รารี่แล้ว สังเวียนซูเปอร์คาร์ในปีนี้ก็จะได้เห็นตัวแรงของค่ายลัมโบร์กินี โดยนาย วิทวัส ชินบารมี กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิช คาร์ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายลัมโบร์กินี และโลตัส แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยเปิดเผยว่า ในช่วงปลายปีที่ผ่านมามีการเปิดตัว อเวนทาดอร์ ซึ่งถือเป็นซูเปอร์คาร์ที่ดีที่สุดในโลก และเป็นโมเดลใหม่ทั้งคัน มีขนาดความแรง 700 แรงม้า สนนราคา 36.5 ล้านบาท ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีและเริ่มทยอยส่งมอบให้กับลูกค้า

นอกจากนั้นแล้วในช่วงปลายเดือนมกราคมจะเปิดตัวรถในรุ่น Super trofeo stradale ซึ่งถือเป็นลิมิเต็ด เอดิชั่นที่ผลิตออกมาเพียง 150 คันทั่วโลก และประเทศไทยได้มาเพียง 3 คัน สนนราคาจำหน่ายอยู่ที่ 26.5 ล้านบาท และในปีนี้จะมีการจัดกิจกรรมฉลองยอดขายของลัมโบร์กินี 160 คันในประเทศไทย
ขณะที่แบรนด์โลตัส ในปีนี้จะมีกิจกรรมใหญ่ที่เรียกว่า โลตัส วันเมคเรซ ที่จะจัดการแข่งขันในช่วง เมษายนนี้ โดยกิจกรรมนี้มีการใช้งบประมาณทั้งหมดรวมราคารถ 15 คัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท

นายวิทวัส กล่าวเพิ่มเติมว่า ยอดขายของรถทั้ง 2 แบรนด์ในปีที่ผ่านมา คิดเป็นมูลค่ารายได้กว่า 1,000 ล้านบาท โดยลัมโบร์กินี สามารถขายได้ 35 คัน และโลตัส 30 คัน ขณะที่เป้าหมายยอดขายในปีนี้คาดว่าใกล้เคียงกับยอดขายของปี 2554 เนื่องจากโควตาการนำเข้ารถแต่ละรุ่นยังมีจำกัด

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,705 15-18 มกราคม พ.ศ. 2555