วันพุธที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2554

สินเชื่อรถ ไตรมาส4ปิดฉากเร็ว ค่ายรถส่งมอบรถช้า12เดือน ปีหน้าเร่งปรับแผนด่วน

นายอิสระ วงศ์รุ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อสินเชื่อรถยนต์ช่วงนี้น่าจะเริ่มทรงตัวอยู่ 2.65% ไปจนถึงสิ้นปี54นี้ เนื่องจากล่าสุดคณะกรรมการนโยบายการเงิน มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 3.5% ช่วยลดแรงกดดันฝั่งต้นทุนการเงินลงไปค่อนข้างมาก จากที่ผ่านมาภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นมีการแข่งขันเรื่องดอกเบี้ยค่อนข้างหนัก ลุ้นปีหน้าพลิกสู่ ดบ.ขาลง พร้อมทำใจค่ายรถอ่วมน้ำท่วม-ส่งมอบรถล่าช้า 6-12 เดือน ฉุดยอดเช่าซื้อไตรมาส 4 ปิดฉากเร็ว เกาะติดผลกระทบผู้ผลิตรถก่อนปรับแผนสินเชื่อปีหน้า

ธุรกิจเช่าซื้อในเวลานี้คงต้องยืนตามดอกเบี้ยนโยบายไปก่อน ซึ่งเป็นไปได้ว่าในปีหน้าดอกเบี้ยนโยบายก็อาจขยับลงด้วยซ้ำ จากปัจจัยเศรษฐกิจโลกและปัญหาน้ำท่วมใหญ่ในประเทศ ภาคธุรกิจคงต้องมาประเมินอีกครั้งว่ามีผลต่อต้นทุนเพียงใด เพราะที่ผ่านมาเมื่อดอกเบี้ยนโยบายถูกปรับขึ้น ดอกเบี้ยเช่าซื้อจะปรับขึ้นในอัตราที่น้อยกว่าอยู่แล้ว

ปัญหาหนักสำหรับธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ สินเชื่อรถ ในช่วงนี้คงอยู่ที่ปัญหาน้ำท่วมเป็นหลัก เพราะสร้างความเสียหายต่อโรงงานประกอบรถยนต์โดยตรง และโรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ทำให้เกิดผลกระทบเป็นลูกโซ่ การส่งมอบรถยนต์จะล่าช้าไปนานถึง 6-12 เดือน กระเทือนถึงปริมาณการผลิตของอุตสาหกรรมรถยนต์ในปีหน้าด้วย ทำให้ธุรกิจเช่าซื้อก็ต้องมาปรับแผนใหม่

ตลาดเช่าซื้อรถยนต์ปีนี้จบแล้ว ไตรมาสสุดท้ายถูกปัญหาน้ำท่วมกระทบไป 1-2 เดือน กว่าน้ำจะลดและจะฟื้นกลับมาเริ่มผลิตได้ คงต้องไปดูกันปีหน้าและประเมินกันใหม่ว่าจะกระทบอย่างไรบ้างอีกด้วย และค่ายรถจะปรับตัวเลขยอดขายอย่างไร

ภาคอุตสาหกรรมรถยนต์ประเมินว่าจะมีกำลังผลิตรถในปี 2554 ประมาณ 1.8 แสนคัน เมื่อเจอปัญหาน้ำท่วมคาดว่าจะเหลือประมาณ 1.5 แสนคัน หายไปประมาณ 3 แสนคัน โดยปริมาณรถใหม่ในประเทศจะมีประมาณ 9 แสนคัน ขยายตัว 12% จากเดิมที่คาดประมาณ 9.5 แสน-1 ล้านคัน

นายชลิต ศิลป์ศรีกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทิสโก้ เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างทำแผนธุรกิจปีหน้า คาดว่าจะจัดทำเสร็จในเดือน พ.ย.นี้ ซึ่งยังคงต้องติดตามผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมที่ยังไม่จบ และผลกระทบต่อซัพพลายเชนภาคการผลิตรถยนต์ว่าจะกลับมาผลิตได้ปกติภายในระยะเวลาใด โดยในเบื้องต้น ค่ายรถฮอนด้าจะกระทบหนักสุด และน่าจะกลับมาผลิตปกติได้ช้าสุด ขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นน่าจะสามารถหาซัพพลายเออร์รายใหม่มาทดแทนได้ ส่วนทิศทางดอกเบี้ยนโยบายคาดว่าจะมีทิศทางทรงตัวหรือมีโอกาสทยอยปรับลงเล็กน้อยในปีหน้า