วันเสาร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ขายรถมือสองให้เต็นท์รถหรือผู้ใช้งานโดยตรงดี

     คำถามเกิดขึ้นในใจเสมอๆ ว่าจะขายรถมือสองให้เต็นท์รถมือสองที่เค้ารับซื้อรถมือสองอยู่แล้วหรือว่าจะรอขายให้กับผู้ใช้งานที่ต้องการรถไว้ใช้งานจริงๆดีนะ   คำตอบของคำถามนี้คือความเร่งรีบที่จะได้รับเงินสดจากการขายรถยนต์เสียมากกว่า   โดยถ้าคุณนำรถไปขายที่เต็นท์รถที่มีความน่าเชื่อถือสูงก็จะได้รับเงินสดทันทีหรือได้รับเงินสดหลังจากโอนรถเสร็จก็แล้วแต่จะตกลงกัน  ซึ่งก็เป็นที่แน่นอนว่าจะได้รับเงินจากการขายรถยนต์ในราคาที่น้อยกว่าการขายให้กับผู้ใช้งานโดยตรงเพราะว่าการขายรถผ่านพ่อค้าคนกลาง   ซึ่งพ่อค้ากลางรับซื้อรถมือสองก็ต้องย่อมหวังในผลกำไรและทางพ่อค้าคนกลางก็มีต้นทุนในธุรกิจของเค้าอยู่ (ค่าเช่าสถานที่ ค่าน้ำค่าไฟ ค่าใช้จ่ายพนักงานเป็นต้น)จึงเป็นเหตุให้ขายกับทางเต็นท์ได้ราคาน้อยกว่าขายให้ผู้ใช้งานโดยตรง

ยกตัวอย่าง

  • รถยี่ห้อA รุ่นB ปีxxxxของคุณราคาตลาดรถมือสองซื้อขายกันอยู่ที่ 300000 บาท
  • เต็นท์รถจะรับซื้อในราคา 220000 - 260000 บาท ขึ้นอยู่กับสภาพรถยนต์ ณ ปัจจุบัน
  • ถ้าคุณนำรถยนต์มาประกาศขายเอง โดยที่ตั้งราคาขายในช่วง 280000 - 320000 ขึ้นอยู่กับสภาพรถยนต์ แต่แน่นอนได้ราคาดีกว่าขายเต็นท์รถซึ่งย่อมต้องใช้เวลาในการขาย ไม่สามารถระบุได้แน่นอนว่าเมื่อไรจะขายได้


แนวทางการนำรถไปขายที่เต็นท์รถมือสอง
   1 นำรถให้เต็นท์ตีราคาสัก 2 หรือ 3 แห่ง ดูก่อนว่ารถยนต์ของคุณอยู่ในราคาไหน
   2 เลือกขายรถกับเต็นท์ที่มีความน่าเชื่อถือ
   3 ทำสัญญาซื้อขายกันให้เรียบร้อย ตกค่าใช้จ่ายในการโอนว่าใครเป็นผู้ออก ที่สำคัญควรให้ทางเต็นท์ที่รับซื้อรถโอนกรรมสิทธิ์รถเปลี่ยนมือให้เรียบร้อย

แนวทางการตั้งขายรถยนต์เอง
   1 ตรวจเช็คสภาพรถยนต์ทั้งคัน ว่ามีส่วนไหนต้องซ่อมแซม บำรุงรักษาบ้าง
   2 ทำความสะอาดรถยนต์ทั้งภายในและภายนอกให้เรียบร้อย
   3 ถ่ายรูปรถยนต์รอบคันทั้งภายในภายนอก
   4 ลงประกาศขายรถยนต์ทางอินเตอร์เน็ตเพราะว่าฟรีและเข้าถึงกลุ่มผู้ซื้อได้โดยง่าย
   5 ข้อความโฆษณาประกาศขายรถยนต์ควรที่จะเป็นความจริงให้มากที่สุด บอกถึงรายละเอียดของรถยนต์ให้ครอบคลุม
   6 การตั้งราคาขายรถยนต์ ควรที่จะให้สูงกว่าราคาขายในใจสักนิดหน่อย เพื่อมีการต่อรองราคากันเกิดขึ้น
   7 เมื่อมีการติดต่อเพื่อจะซื้อ จะขายรถยนต์เกิดขึ้น ควรที่จะทำการตกลงราคาซื้อขายให้เรียบร้อย ทำสัญญาซื้อขายรถ ทำมัดจำรถยนต์
   8 เชื่อได้ว่าส่วนใหญ่แล้วจะไม่ซื้อเงินสดเป็นอย่างแน่นอน จะขอกู้เงินธนาคารมาซื้อรถกันเป็นส่วนใหญ่

การขอกู้เงินธนาคารซื้อรถยนต์ สามารถกระทำได้เองโดยการติดต่อกับธนาคารที่มีสาขาใกล้ที่บ้านหรือที่ทำงานได้เลย

  1 ผู้ซื้อ ผู้ค้ำประกันรถ และ ผู้ขาย เตรียมเอกสารในการขอกู้เงินธนาคารซื้อรถให้พร้อมและนัดกันเดินทางติดต่อที่ธนาคาร
  2 ผู้ซื้อ ผู้ค้ำประกันรถยื่นเอกสารเพื่อขอสินเชื่อรถมือสองกับธนาคารนั้นๆ
  3 เมื่อผลอนุมัติผ่าน ทางธนาคารจะแจงให้ทางผู้ซื้อให้ทราบ และแจ้งทางผู้ขายให้ทราบเพื่อส่งเล่มทะเบียนรถยนต์ให้แก่ธนาคารเพื่อทำเอกสารโอนรถและนัดวันทางผู้ขายนำรถยนต์ไปตรวจสภาพ ทำเรื่องโอนรถเข้าชื่อธนาคาร
  4 เมื่อผลโอนรถเรียบร้อย ทางธนาคารจะตรวจเช็คผลโอน ถ้าผลโอนถูกต้องสมบูรณ์ ทางธนาคารจึงจะสั่งจ่ายแคชเช็คเชียร์ให้แก่ทางผู้ถือกรรมสิทธิ์
  5 ผู้ขายรับแคชเชียร์เช็คนำเช็คฝากและเบิกถอนเงินสด ส่งมอบรถยนต์ให้แก่ผู้ซื้อ ผู้ขายรถพร้อมรับเงินดาวน์ออกรถยนต์จากผู้ซื้อ
  6 ผู้ซื้อรับรถยนต์ไว้ใช้งานเรียบร้อย ต้องชำระหนี้เงินกู้เงินซื้อรถจากธนาคารที่เรียกว่า ค่างวดรถยนต์ ทุกเดือนตามวันที่กำหนดจนครบอายุสัญญาเช่าซื้อ ทางธนาคารก็โอนกรรมสิทธิ์รถยนต์กลับคืนมาให้ จึงเรียกว่าเช่าซื้อรถยนต์

เชื่อได้ว่า กรณีซื้อขายรถบ้านกันเอง เกิดขึ้นทุกวัน บางกรณีก็ไม่เกิดอุปสรรคซื้อขายขอสินเชื่อรถกันแบบราบลื่น แต่ว่าบางกรณีที่เกิดอุปสรรคทำให้ผู้ขายปิดการขายไม่ได้ ผู้ซื้อไม่สมหวังที่ได้รับรถยนต์ไว้ใช้งานคือ

  •      รถยนต์ได้มีการเปลี่ยนเครื่อง วางเครื่องยนต์ บางไฟแนนซ์รถขอสินเชื่อรถไม่ได้
  •      รถยนต์ เป็นรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานสูง หรือที่เรียกว่ารถปีต่ำ(รถปี 1992 - ปี 1999) บางไฟแนนซ์รถไม่รับพิจารณาไม่เข้าเงื่อนไข
  •      ผู้ซื้อรถยนต์ติดเครดิตเรื่องบัตรเครดิต มีค้างชำระ มีประนอมหนี้ ไม่ได้จ่ายหนี้บัตรเครดิตรอสรุปตัดยอดจ่ายชำระทีเดียว เคยติดค้างชำระแต่เคลียร์สถานะเรียบร้อยแล้ว จึงทำให้ขอสินเชื่อรถไม่อนุมัติ
  •      ผู้ซื้อรถยนต์ติดเครดิตเรื่องบ้าน มีค้างค่าชำระ ทำให้ขอสินเชื่อรถไม่อนุมัติ
  •      เล่มทะเบียนรถยนต์หน้า 18 มีบันทึกเล่มทะเบียนสูญหาย บางไฟแนนซ์รถไม่รับพิจารณา
  •      และอีกมากมายสาเหตุที่ทำให้ขอสินเชื่อรถยนต์ไม่อนุมัติ


     ถ้าผู้ซื้อ ผู้ค้ำประกัน และ ผู้ขาย ได้มีการติดต่อที่จะขอกู้เงินธนาคารเพื่อซื้อรถด้วยตนเองแล้วไม่อนุมัติ เพราะประสบกับอุปสรรคตามข้างต้นที่กล่าวมา สละเวลาขอมีค่าของท่านอีกสักคราวไหมกับทางเลือกโบรกเกอร์สินเชื่อรถยนต์มือสอง five4cash.com นำเสนอโอกาสความเป็นไปได้สำหรับสินเชื่อรถยนต์มือสองให้แก่ผู้ซื้อ ผู้ค้ำประกันรถ และ ผู้ขาย ให้ได้พบกับคำว่า จบการขายรถมือสองเรียบร้อย และ แลกเปลี่ยนส่งมอบรถยนต์กันเรียบร้อย ลองติดต่อเราดูไหม five4cash.com

เงื่อนไขของเรา five4cash ง่ายๆ

   1 ไม่รับติดต่อนอกสถานที่ ผู้ซื้อ ผู้ค้ำประกันรถ และ ผู้ขาย five4cashขอความกรุณาจากท่านติดต่อที่ออฟฟิศ five4cash เท่านั้น

   2 ผู้ซื้อติดเครดิตเรื่องบ้าน เรื่องบัตรเครดิต โอกาสสินเชื่อรถอนุมัติมีความเป็นไปได้เพียงแต่ต้องมีผู้ค้ำประกันที่ไม่ติดสถานะด้านเครดิต เป็นเจ้าบ้านที่สามารถยืนยันในกรรมสิทธิ์ได้หรือผ่อนบ้าน ผ่อนคอนโดเป็นของตนเองก็ย่อมและมีอาชีพที่ชัดเจน ประกอบกับรายได้ที่มั่นคงต่อเดือน

   3 กรณีเอกสารครบ ผู้ซื้อ ผู้ค้ำ (อยู่กรุงเทพ) ทราบผลอนุมัติไม่เกิน 2 วันทำการ ส่วนผู้ขายหลังทราบผลอนุมัติทำเรื่องโอนรถไม่ประมาณ 2 - 4 วันทำการ สรุปรวม 5-7 วันทำการซื้อขายแลกเปลี่ยนรถยนต์เรียบร้อย (กรณีอยู่ต่างจังหวัด ในระยะเวลาประมาณ 6 - 20 วันทำการ)

   4 เอกสารที่ต้องใช้สำหรับผู้ซื้อ ผู้ค้ำประกันรถ บัตรประชาชน , ทะเบียนบ้าน , ใบรับรองเงินเดือนหรือสลิปเงินเดือน , สมุดเงินฝากธนาคารอัพเดทล่าสุด 6 เดือน , บัตรข้าราชการหรือบัตรพนักงาน(ถ้ามี) , ใบเสร็จผ่อนบ้าน ใบเสร็จผ่อนคอนโด(ถ้ามี) , ใบหัก ณ ที่จ่าย(ทวิ50) , ใบ PO ใบสั่งซื้อสินค้า ใบออเดอร์(ถ้ามี)

   5 เอกสารที่ต้องใช้สำหรับผู้ขาย เล่มทะเบียนรถยนต์, บัตรประชาชน, ทะเบียนบ้าน และ รถยนต์คันที่จะซื้อขาย



ช่องทางในการติดต่อ five4cash.com
089-0650905
081-3547440
fax 02-6938850 ต่อ 103  /  02-6938851 ต่อ 105
Email : five4cash@hotmail.com

แจ้งให้ทราบ www.five4cash.com ไม่ใช่ผู้ให้สินเชื่อรถ 
สถาบันการเงินเป็นผู้พิจารณาอนุมัติสินเชื่อรถและเป็นผู้ให้สินเชื่อรถ