การรีไฟแนนซ์รถยนต์คือการยื่นขอสินเชื่อรถยนต์กับทางธนาคาร โดยรถยนต์คันที่จะนำมารีไฟแนนซ์ต้องเป็นรถของคุณเอง คุณต้องเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์รถยนต์คันดังกล่าว เมื่อคุณมีความต้องการเงินสดรถช่วยได้ตามโฆษณา มีรถจะช่วยได้อย่างไรช่วยได้โดยนำรถยนต์ในกรรมสิทธิ์ของคุณมารีไฟแนนซ์รถยนต์กับธนาคารโดยทางธนาคารจะทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์กับคุณ(คุณขายรถให้ธนาคารผ่อนหมดทางธนาคารจะโอนรถกลับเป็นชื่อคุณ) เมื่อคุณยื่นเรื่องรีไฟแนนซ์ เซ็นต์เอกสารและสัญญาเรียบร้อย ผลอนุมัติผ่อนหรือรีไฟแนนซ์ผ่านแล้วโดยเจ้าหน้าที่ธนาคารจะแจ้งผลให้ทราบแล้ว คุณต้องนำเล่มทะเบียนรถยนต์พร้อมรถยนต์ทำเรื่องโอนเข้าธนาคารที่ขอสินเชื่อรถยนต์พร้อมกับเอกสารในการโอนรถยนต์เข้าธนาคาร ในส่วนของเอกสารโอนเข้าธนาคารต้องให้ทางธนาคารออกเอกสารใช้ในการโอนรถยนต์ให้กับทางคุณ แล้วนำรถยนต์ตรวจสภาพโอน ชำระอากรโอนเรียบร้อย ผลโอนที่ออกมาธนาคารจะเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์รถยนต์และคุณผู้นำรถยนต์ไปรีไฟแนนซ์จะเป็นผู้ครอบครองรถยนต์จะเห็นได้ว่าเมื่อโอนเสร็จเรียบร้อยแล้วคุณยังไม่ได้รับเงินในทันที คุณจะต้องนำเล่มทะเบียนที่โอนเข้าชื่อธนาคารเรียบร้อยแล้วนำเล่มทะเบียนไปทำเรื่องเบิกแคชเชียร์เช็คกับทางธนาคาร ทางธนาคารทำแคชเชียร์เช็คสั่งจ่ายในนามผู้ถือกรรมสิทธิ์รถยนต์(ชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์รถยนต์ก่อนที่จะโอนเข้าธนาคาร) โดยในเงื่อนไขนี้โอนเสร็จก่อนแล้วค่อยรับแคชเชียร์เช็คสั่งจ่ายผู้ถือกรรมสิทธิ์รถยนต์คันที่นำมารีไฟแนนซ์ทุกธนาคารมีเงื่อนไขเดียวกันหมด
หลายคนคงมีคำถามแล้วรถยนต์ของฉันยังผ่อนอยู่กับ..........แล้วจะนำรถยนต์มารีไฟแนนซ์ได้หรือไม่ โดยเงื่อนไขทุกธนาคารนั้นจะไม่รับรถยนต์ที่ติดภาระผ่อนอยู่(เรียกง่ายๆไม่รับโอนหนี้สินเชื่อรถยนต์ระหว่างธนาคาร1ไปธนาคาร2) คุณจะต้องดำเนินการเคลียร์ภาระสินเชื่อรถยนต์ให้หมดเสียก่อน สาเหตุที่จะต้องเคลียร์ภาระสินเชื่อรถยนต์เพื่อที่จะได้รับเล่มทะเบียนและเอกสารในการโอนเปลี่ยนผู้ถือกรรมสิทธิ์ ในการรีไฟแนนซ์หรือทำสินเชื่อรถนั้นจะต้องมีเล่มทะเบียนรถยนต์เสมอเพื่อเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน
ช่องทางในการติดต่อรีไฟแนนซ์ปัจจุบันคุณสามารถติดต่อรีไฟแนนซ์หรือหาข้อมูลเบื้องต้นเพื่อเตรียมตัวที่จะรีไฟแนนซ์รถยนต์หรือทำสินเชื่อรถยนต์ได้ตัวคุณเองได้ทุกธนาคารที่มีสาขาใกล้บ้านคุณ
